ความเป็นมาวันอาทิตย์
เทพพระอาทิตย์ทรงมีพระนามมากมาย อรหบดี ( เป็นใหญ่ในวัน ) สหัสรกิรณ ( มีแสงนับพัน ) โลกจักษุ ( ตาโลก ) วิวัสวัต ( ผู้สว่าง )
ทินกร ( ผู้ทำการกลางวัน ) เป็นเทพผู้ให้แสงสว่าง การกำเนิด เทพแห่งอำนาจ ลาภยศ สรรเสริญ ชื่อเสียง และความสุข
เทพพระอาทิตย์ มีทั้งหมดแปดองค์ เทพองค์ของเรานี้คือ พระสูรยาทิตย์ ในไตรเพท พระสูรยาทิตย์ เป็นโอรสองค์ที่ ๘ ในจำพวกเทพพระอาทิตย์ เป็นโอรสแห่งพระกัศยปเทพบิดร และนางอทิติ โดยมี ๘ องค์เรียงดังนี้
๑. วรุณาทิตย์ ๒. มิตราทิตย์
๓. อรยมนาทิตย์ ๔. ภคาทิตย์
๕. อัมศาทิตย์ ๖. อินทราทิตย์
๗. ธาตราทิตย์ ๘. สูรยาทิตย์
ตำนานเทวกำเนิดระบุว่า ครั้งนั้น พระอิศวร ซึ่งเป็นใหญ่ในปวงเทพ นำพญาราชสีห์ ๖ ตัว มาป่นลง รองรับด้วยผ้าสีแดง ( แดงทับทิม ) พรมด้วยน้ำอมฤต กำกับด้วยพระเวทย์คาถาศักดิ์สิทธิ์ กำเนิดเป็นองค์เทพบุตรพระอาทิตย์มีพระวรกายสีแดง มีรัศมีรุ่งโรจน์รอบตัว ร่างเล็กมีสี่กร กรแรก ห้ามภยันตราย กรที่สองประทานพร อีกสองกรถือดอกบัว เสื้อทรงสีเหลืองอ่อน อาภรณ์แก้วปัทมราช และมีสีวิมานสีแดง ทรงราชสีห์ ( สิงโต ) เป็นพาหนะ
นอกจากราชสีห์แล้ว พระอาทิตย์ยังมีราชรถเทียมม้าขาว ๗ ตัว โดยมีสารถีชื่ออรุณ เป็นเทวพาหนะอีกอย่างด้วย
พระอาทิตย์ เป็นโลกบาล ทิศเนรดี ( ตะวันตกเฉียงใต้ ) ซึ่งไทยเราเรียก ทิศหรดี ประจำอยู่ทางทิศอาคเนย์ ( ตะวันออกเฉียงใต้ ) แสดงถึงสระทั้งหมดในภาษาบาลี ( อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ )
ในโหราศาสตร์ไทย พระอาทิตย์ถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ ๑ และด้วยเหตุที่สร้างขึ้นมาจากราชสีห์ ๖ ตัว ทำให้มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๖ พระประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ก็คือ ปางถวายเนตร
ทิศมงคล ทิศบูรพา ( ตะวันออก )
อัญมณีประจำวัน โกเมน เพทาย
แม่ซื้อประจำวัน นางวิจิตรนาวัน ( กายสีแดง )
คาถาบูชาดวงชะตาประจำวัน คาถาพระนารายณ์แปลงรูป ภาวนาวันละ ๖ จบ ( อะ วิช สุ นุส สา นุต ติ )
ตำนานชาติเวรแจงไว้ว่า พระอาทิตย์ กับพระอังคาร พระราหู เป็นอริกัน พระอาทิตย์ กับพระพฤหัสบดี จึงเป็นมิตรกัน
ประวัติว่าไว้ ในกาลครั้งนั้น เหล่าทวยเทพไท้ ได้ทำการกวนเกษียรสมุทร เพื่อทำน้ำอมฤตเมื่อได้น้ำอมฤตแล้ว ฝ่ายเทพจะแบ่งกันเสวยโดยไม่ยอมแบ่งอสูร ฝ่ายอสูรขัดเคืองไม่พอใจ จึงขุ่นเคืองกับปวงเทพอยู่กลายๆ ฝ่ายพระราหู อสูรใจถึง แปลงกายเป็นเทพเทวา แอบมาเสพน้ำอมฤตด้วย พระอาทิตย์กับพระจันทร์สังเกตเห็นเข้า จึงนำความขึ้นทูลองค์พระนารายณ์พระนารายณ์ทรงกริ้ว ขว้างจักรบั่นกายของ อสุรราหู ออกเป็น ๒ท่อน แต่ด้วยฤทธานุภาพแห่งน้ำอมฤต อสุรราหูจึงไม่ถึงตาย มีชีวิตทั้งที่ร่างกายขาดแยกเป็นสองเสี่ยง ท่อนบนเป็นอสูร คอยไล่กลืนกินดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ท่อนล่างกลายเป็นดาวเกตุ สืบไป พระอาทิตย์กับพระราหูจึงตกเป็นคู่ศัตรูกันแต่นั้น สืบมา
นิทานโบราณว่า ชาติภพหนึ่ง พระอังคารเกิดเป็นราชสีห์ พระอาทิตย์เกิดเป็นนกหัวขวาน พญาราชสีห์ กินเนื้อกินปลา กระดูกเนื้อก้างปลาเกิดไปติดขวางลำคอ จึงร้องขอให้นกหัวขวานช่วยเอาจะงอยปากคีบกระดูกชิ้นนั้นออกมาที แต่ปรากฏว่า นกหัวขวานไม่ทำเช่นนั้น กลับให้ความคมของปลายปากจิกเนื้อเจาะคอของราชสีห์เป็นโพรงแล้วเอากระดูกชิ้น นั้นออกมาแทนสร้างความเจ็บปวดเหลือประมาณแก่ราชสีห์ยิ่งนัก จึงผูกอาฆาตจองเวรนกตัวนั้นตลอดเวลาจากนั้นมาคราใด ชาติภพไหนได้วนเวียนมาเจอกัน เป็นต้องมีการเลือดตกยางออกระหว่างสองเทพทุกครั้งไป ไม่ว่าชาติภพใดใด
เรื่องเล่าของเหล่าเทพ สืบทอดมาว่า ครั้งใดครั้งหนึ่ง พระพฤหัสบดี เกิดเป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์และพระอาทิตย์ได้เกิดมาเป็นลูกศิษย์ ทิศาปาโมกข์ มีความพึงพอใจในตัวศิษย์พระอาทิตย์อย่างยิ่ง ถึงขนาดยก ธิดาให้เป็นภรรยา ซึ่งธิดาในครั้งนั้นคือเทพพระจันทร์ของเราๆนั่นเอง ถึงคราวที่ศิษย์จะต้องเดินทางไปธุระต่างแดน แสนไกล จึงฝากชายาไว้ กับพระอาจารย์พฤหัสบดี อาจารย์เกรงจะเกิดเภทภัย จึงเนรมิตผอบใส่บุตรสาวตนไว้ พระอังคารซึ่งแอบล่วงรู้ความนัยทั้งหมด จึงได้เนรมิตตนเป็นเพชรพระยาธร มีฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้ด้วยพระขรรค์ แล้วแอบมาเป็นชู้กับพระจันทร์ธิดาของพระพฤหัสบดี เมื่อพระพฤหัสทราบเรื่องก็เสียพระทัยยิ่งนัก ว่าตนมิได้ดูแลชายาของพระอาทิตย์ให้ดีเท่าที่ได้รับฝากไว้ จึงจัดแต่งพานหมากไว้เป็น ๒ ที่ พระอาทิตย์ผู้ศิษย์กลับมาเห็นเข้าก็ผิดสังเกตถามว่าเพราะเหตุใดจึงมีพานหมาก สองที่ พระพฤหัสบดีจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังพระอาทิตย์เสียใจมาก เปิดผอบออกมาพบพระอังคารกับพระจันทร์สมสู่เสพชู้กัน ครั้นเมื่อรู้ว่าถูกจับได้พระอาทิตย์กับพระอังคารจึงได้ทำศึกต่อสู้กัน พระอาทิตย์ถูกพระอังคารฟาดด้วยพระขรรค์ที่ศรีษะ ๒ แห่งจนแตกได้รับบาดเจ็บ ส่วนพระอังคารก็ถูกพระอาทิตย์ขว้างด้วยจักร ถูกที่พระบาท พระจันทร์ไม่พอใจที่พระฤหัสบดีเข้าข้างพระอาทิตย์ที่เป็นแค่ศิษย์ นับตั้งแต่นั้นมา พระอาทิตย์กับพระพฤหัสบดีจึงเป็นมิตรกัน ส่วนพระอาทิตย์กับพระอังคารก็ผูกพยาบาทเป็นศัตรู คู่อาฆาต พระจันทร์เองก็เป็นศัตรูกับพระพฤหัสและไม่ถูกกับวันอาทิตย์เช่นกัน ฉะนั้นเมื่อพระพฤหัสกับพระจันทร์มาพบกันเมื่อใด ย่อมเกิดการลุ่มหลงมืดมัวด้วยความรักและได้ไข้เจ็บหนัก เกิดคดีความในหมู่พี่น้อง ส่วนอังคารกับพฤหัสมาถึงกันเมื่อใดย่อมเป็นอมิตรข่มเหงกันทุกครั้งไป
พระอาทิตย์ มีมเหสีสี่องค์ คือ นางฉายา นางสุวรรณา นางสวาดี และ มหาวีรยา
พระอาทิตย์ มีโอรสกับพระธิดาของพระวิศวกรรม คือพระมณูไววัสวัต มีเรื่องเล่าอีกว่า เพราะรัศมีกายที่รุ่งโรจน์ของพระอาทิตย์นี่แหละ ทำให้พระชายาทนไม่ได้ หนีไปบวชเป็นโยคินีอยู่ในป่า ลอบแปลงกายเป็นม้าอัศวินีเพื่อให้พระอาทิตย์ผู้เป็นสวามีจำไม่ได้ แต่พระอาทิตย์รู้ทันจึงจำแลงเป็นม้าไปเป็นสามีอีกจนเกิดลูกด้วยกัน คือพระอัศวิน แฝดคู่กับ พระเรวันต์ ครั้นเมื่อพากันกลับมายังวิมานแล้ว พ่อตาคือพระวิศวกรรม จึงจับพระอาทิตย์ขูดผิวที่สว่างออกเสียหนึ่งในแปด ร่างกายจึงเล็กลงและความรุนแรงของรัศมีก็บรรเทาลง พอที่จะอยู่กับพรชายาได้ต่อไป ผิวที่ขูดออกนี้ พระวิศวกรรมนำไปสร้างจักรถวายพระนารายณ์ ตรีศูลถวายพระอิศวร คทาให้ท้าวกุเวรและพระขรรค์ให้พระขันธกุมาร
เทวดานพเคราะห์ เทพพระอาทิตย์ เราเปรียบกับดวงอาทิตย์ เป็นดาวมหาภิภพ ใหญ่กว่าภิภพที่มนุษย์อยู่กัน ราว ๑,๓๑๐,๐๐๐ เท่า และมีพื้นที่คิดเป็นตารางเหลี่ยมได้ ๓,๓๕๗,๑๒๗,๗๐๒,๐๐๐ วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ ๘๖๖,๔๐๐ ไมล์ เป็นดาวอยู่ประจำที่ หมุนรอบตัวเองหนึ่งรอบ ต่อ ๒๕ วัน ๙ ชั่วโมง เป็นดาวที่ให้แสงสว่างแก่ดาวพระเคราะห์ดวงอื่นๆ มีกำลังดึงดูด ๑ วินาทีต่อ ๔๔,๔๖๐ ฟุต ลำแสงของพระอาทิตย์มีกำลังดูดน้ำได้ถึง ๑๐๐๐ ส่วน ฝน ๔๐๐ ส่วน หิมะ ๓๐๐ ส่วนลมอากาศ ๓๐๐ ส่วน และอยู่ห่างจากโลกถึง ๙๒,๙๖๕,๐๐๐ ไมล์ ดวงอาทิตย์เป็นดวงดาวสำคัญ ควรเปรียบเหมือนพระราชา ดาวดวงอื่นเปรียบเหมือนบริวาร (ตามหลักวิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และ ดาราศาสตร์) โดยบริวารเหล่านั้น ต้องได้รับอิทธิพลจากดวงอาทิตย์ จึงถือเป็นดาวบาปเคราะห์
วันอาทิตย์ สีประจำวันคือสีแดง แต่สำหรับสีที่ให้โชคลาภคือ “สีเขียว” มีคนรักคนชอบ รวมไปถึงสีชมพูใส่แล้วจะทำให้คนเกรงขาม สีที่เป็นกาลกิณี คือสีน้ำเงิน ฟ้า
ธาตุประจำตัวคือ ธาตุไฟ เป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ให้ผลในทางก้าวร้าวรุนแรง การที่พระอาทิตย์ ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยราชไกรสรนั้น จึงมีนิสัยดุร้ายเหมือนกับราชสีห์ราชสีห์มีนิสัยดุร้าย รักยศ รักความสวยงาม เจ้าชู้ ถือตัว ปัญญาไว ไหวพริบดี เฉียบขาด โอบอ้อมอารี ใจคอกว้างขวาง กล้าได้กล้าเสีย ชอบความอิสระ มีมานะ
ผู้ใดเกิดวันอาทิตย์ หรือมีพระอาทิตย์สถิตย์ร่วมกับลัคนา มักมีอารมณ์รุนแรง ตัดสินใจไว เฉียบขาด แต่ซื่อสัตย์ บุคคล ที่เกิดในวันนี้ รูปร่างสมส่วน สันทัด ผิวขาวหรือดำแดง คล่องแคล่วว่องไว พูดจาตรงไปตรงมา จิตใจเข้มแข็ง ชอบชีวิตอิสระ มีความเป็นผู้นำ รักเกียรติศักดิ์ศรี มีความคิดของตัวเอง บางครั้งใจร้อนวู่วาม โกรธง่ายหายเร็ว ขี้หงุดหงิด ใช้จ่ายเก่ง มีความคิดสร้างสรรค์ ทะเยอทะยาน เจ้าระเบียบ ต้องการความสมบูรณ์แบบในชีวิต
หญิงชายใด เกิดวันอาทิตย์
๑. เป็นอัตตะ
เป็นคนมากด้วยบุญ วาสนา แรกคลอดนั้น พี่น้องพร้อมหน้าพร้อมตา มีความสามารถในการเจรจา ซื่อสัตย์เติบใหญ่ภายหน้าจะได้ดี เพราะตนเอง
๒ เป็นหินะ
บูรพาจารย์ ท่านว่าคนวันอาทิตย์ ได้ของสิ่งใดมามักรักแต่แรกเริ่ม นานไปก็เบื่อหน่ายไม่ใส่ใจไยดี
๓ เป็นธะนัง
จับจ่ายทรัพย์สินมือเติบ เก็บเงินไม่ค่อยอยู่ มีเหตุให้ใช้ ผู้อื่นเบียดเบียน
๔ เป็นปิตา
หัวไว แต่ใจร้อน บิดาจะเสียชีวิตก่อนมารดา
๕ เป็นมาตา
ญาติพี่น้องทางมารดา สูงส่งกว่าญาติพี่น้องบิดา
๖ เป็นโภคา
ไม่ค่อยรักษาข้าวของ ชอบยกให้ผู้อื่น ของให้ใครหยิบยืมไม่ค่อยได้คืน ทำดีกับใคร เหมือนไฟตกน้ำช่วยเขามามากมาย วันหลังหวังขอพึ่งเค้าบ้างกลับถูกนินทา ความดีไม่เคยมีเหลือ
๗ เป็นมัชฌิมา
ไม่ค่อยใส่ใจเพศตรงข้าม ชอบการรณรงค์ ให้ความสำคัญกับใจมากกว่าสมอง
คนเกิดอาทิตย์ ปีชวด ( หนู )
หนูนา โชคชะตาวาสนา อยู่ในเกณฑ์ พอใช้ ตกภาค ได้เมื่อพระยาสัตลุงถูกนำตัวไปประหาร ชีวิตจะมีความทุกข์ พบเจอแต่เรื่องร้อนใจ ทุกข์ทน แต่เป็นคนรูปงาม มีเสน่ห์ ช่างเจรจ
คนวันอาทิตย์ ปีฉลู ( วัว )
วัวขวัญร้าย โชคชะตาวาสนา อยู่ในเกณฑ์ ปานกลาง ตกภาค ชีวิตตกยาก ใจนักเลง อาภัพ ทำอะไรลุกลี้ลุกลน จิตใจโลเล รักง่ายหน่ายเร็ว
คนวันอาทิตย์ ปีขาล ( เสือ )
เสืออยู่ถ้ำ โชคชะตาวาสนา อยู่ในเกณฑ์ พอใช้ ตกภาค ทำมาหากินลำบาก สร้างฐานะด้วยตนเอง รักบ้านเกิด มักถูกคนเอาเปรียบ พึ่งพาใครไม่เคยได้
คนวันอาทิตย์ ปีเถาะ ( กระต่าย )
กระต่ายพเนจร โชคชะตาวาสนา อยู่ในเกณฑ์ พอใช้ ตกภาค แรกเกิดจนโต ต้องต่อสู้ดิ้นรน พึ่งได้แค่ตนเอง ควรเลือกคบคน มีความสามารถ เอาตัวรอดได้
คนวันอาทิตย์ ปีมะโรง ( งูใหญ่ )
งูพญานาค โชคชะตาวาสนา อยู่ในเกณฑ์ ดีมาก ตกภาค อำนาจวาสนาดี อุดมด้วยทรัพย์ ศฤงคาร และพวกพ้อง ดุร้าย ฉุนเฉียวง่าย ไม่ค่อยใส่ใจใคร
คนวันอาทิตย์ ปีมะเส็ง ( งูเล็ก )
งูหนีไฟลงน้ำ โชคชะตาวาสนา อยู่ในเกณฑ์ พอใช้ ตกภาค มีแต่เรื่องยุ่งยากมาให้ปวดหัว ชีวิตลำบากตรากตรำบั้นปลายจึงปักหลักได้ แต่ยังจัดว่าดีตรงที่มีคนคอยอนุเคราะห์ เหมือนหนีร้อนไปพึ่งเย็น
คนวันอาทิตย์ ปีมะเมีย ( ม้า )
ม้าคนเลี้ยง โชคชะตาวาสนาอยู่ในเกณฑ์ดี ตกภาค ความเป็นอยู่สุขสบาย ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ญาติมิตร เพศตรงข้าม ขณะเดียวกันก็ชอบให้ความช่วยเหลือผู้อื่นด้วยเช่นกัน
คนวันอาทิตย์ ปีมะแม ( แพะ )
แพะกลางตลาด โชคชะตาวาสนาอยู่ในเกณฑ์ปานกลางตกภาค ชีวิตต้องโยกย้าย เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ ทำมาหาได้พอกินไม่มีเหลือเก็บ ญาติมิตรอาศัยไม่ได้
คนวันอาทิตย์ ปีวอก ( ลิง )
ลิงพระยาเลี้ยง โชคชะตาวาสนา อยู่ในเกณฑ์ ดีมาก ตกภาค สุขสบาย ประสบความสำเร็จ ได้เป็นใหญ่เป็นโต ระวังกรณีพิพาทเรื่องชู้สาว โดนใส่ร้ายคดโกง
คนวันอาทิตย์ ระกา ( ไก่ )
ไก่พระยาเลี้ยง โชคชะตาวาสนา อยู่ในเกณฑ์ ดีมาก ตกภาค บุญวาสนาดี ผู้ใหญ่ญาติมิตร ให้การสนับสนุน เพื่อนฝูงรักใคร่ ชีวิตสมบูรณ์พูนสุข
คนวันอาทิตย์ ปีจอ ( หมา )
หมาไล่เนื้อ โชคชะตาวาสนาอยู่ในเกณฑ์ปานกลางตกภาค จะมีคนเกื้อหนุนต่อเมื่อทำประโยชน์ให้เค้าได้ ชีวิตเหนื่อยยาก ตั้งใจทำงานทำการชีวิตภายภาคหน้า อาจพบความสุขสบายได้บ้าง
คนวันอาทิตย์ ปีกุน ( หมู )
หมูพระยาเลี้ยง โชคชะตาวาสนา อยู่ในเกณฑ์ ดีมากตกภาค บุญวาสนาดี ผู้ใหญ่อุปถัมภ์ ลาภยศสมบูรณ์ คนรักใคร่พอใจ
คนเกิดวันอาทิตย์ ทั่วๆไป
ชอบใช้ชีวิตผาดโผน มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง มีสติปัญญาดี รู้ทันคน เป็นคนเจ้าระเบียบพอสมควร มีความเป็นผู้นำ รักศักดิ์ศรี มีความเพียร ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย จิตใจเข้มแข็ง ประสบชัยชนะได้ง่าย จะมีผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุน รักความสะดวก สบาย ไม่ค่อยประหยัดอดออม มีความฝันและทะเยอะทะยาน มุ่งมั่น โกรธง่ายหายเร็ว ใช้เงินตามความพอใจ ไม่ค่อยคิดถึงวันข้างหน้า ควรระวังโรคภัยไข้เจ็บ อาทิ หลอดเลือดตีบ หัวใจล้มเหลว อาการปวดตามข้อ คอ ไหล่ สายตาผิดปกติ
ผู้ชายวันอาทิตย์
บุคลิกดี นิ่งเฉยเงียบขรึม แต่บางคราววู่วาม ใจร้อน ฉุนเฉียว จริงจังกับการใช้ชีวิตอาชีพอิสระ ที่ไม่อยู่ใต้บังคับบัญชาใคร ค้าขาย ก่อสร้าง ฯ เหมาะสมที่สุด พื้นฐานชะตาชีวิตดี มีบริวารเกื้อ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น